การตัดสินใจไปเรียนต่ออังกฤษเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน แต่อย่างที่เรารู้กันดีว่าการเรียนต่อในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่มีมาตรฐานการศึกษาสูงอย่างอังกฤษนั้น มีค่าใช้จ่ายที่สูงพอสมควร เมื่อพูดถึงค่าใช้จ่าย สิ่งที่ต้องคำนึงถึงไม่ใช่เพียงแค่ค่าเล่าเรียนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จะต้องเจอในชีวิตประจำวัน

ยาวไป เลือกอ่านได้
1. ค่าเล่าเรียน
ค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยที่อังกฤษจะแตกต่างกันไปตามระดับการศึกษาและมหาวิทยาลัยที่เลือกศึกษา สำหรับหลักสูตรปริญญาตรี ค่าเล่าเรียนจะอยู่ระหว่าง 10,000 – 38,000 ปอนด์ต่อปี (ประมาณ 420,000 – 1,600,000 บาท) ขณะที่หลักสูตรปริญญาโทจะอยู่ระหว่าง 11,000 – 32,000 ปอนด์ต่อปี (ประมาณ 462,000 – 1,344,000 บาท)
2. ค่าที่พัก
ค่าที่พักก็เป็นอีกหนึ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องคำนึงถึง สำหรับนักเรียนต่างชาติ การเช่าที่พักในมหาวิทยาลัยหรือหอพักจะมีราคาประมาณ 500 – 1,200 ปอนด์ต่อเดือน (ประมาณ 21,000 – 50,000 บาท) แต่หากเลือกที่จะเช่าห้องหรือบ้านข้างนอกมหาวิทยาลัย ค่าใช้จ่ายก็อาจสูงขึ้นตามทำเลที่ตั้ง
3. ค่าอาหารและค่าใช้จ่ายส่วนตัว
ค่าอาหารจะอยู่ที่ประมาณ 200 – 300 ปอนด์ต่อเดือน (ประมาณ 8,400 – 12,600 บาท) ส่วนค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ค่าของใช้ส่วนตัว ค่าบันเทิง ค่าการเดินทาง จะอยู่ที่ประมาณ 150 – 250 ปอนด์ต่อเดือน (ประมาณ 6,300 – 10,500 บาท)
4. ค่าเดินทาง
การเดินทางในอังกฤษสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก ค่าบริการสำหรับนักเรียนจะมีส่วนลดพิเศษ ค่าเดินทางจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 60 ปอนด์ต่อเดือน (ประมาณ 1,260 – 2,520 บาท)
5. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องคำนึงถึง เช่น ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน ค่าประกันสุขภาพ และค่าใช้จ่ายในการขอวีซ่า ค่าประกันสุขภาพจะอยู่ที่ประมาณ 150 – 200 ปอนด์ต่อปี (ประมาณ 6,300 – 8,400 บาท)
รวมค่าใช้จ่ายต่อปี
หากรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ค่าใช้จ่ายสำหรับการเรียนต่อที่อังกฤษจะอยู่ที่ประมาณ 25,000 – 40,000 ปอนด์ต่อปี (ประมาณ 1,050,000 – 1,680,000 บาท)
การเปรียบเทียบระหว่างการลงทุนเองและการใช้เอเจนซี่
เมื่อคุณตัดสินใจไปเรียนต่อที่อังกฤษ มีสองแนวทางหลักที่คุณสามารถเลือกใช้ได้ นั่นคือ การลงทุนเองและการใช้เอเจนซี่ ทั้งสองแนวทางมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป

การลงทุนเอง
ข้อดี:
- อิสระในการตัดสินใจ: คุณสามารถเลือกมหาวิทยาลัยและหลักสูตรที่ต้องการได้เองโดยไม่มีข้อจำกัด
- ประหยัดค่าใช้จ่าย: การลงทุนเองอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าบริการเอเจนซี่
- เรียนรู้และประสบการณ์: การทำทุกอย่างด้วยตัวเองจะช่วยให้คุณเรียนรู้และมีประสบการณ์ที่หลากหลายในการเตรียมตัว
ข้อเสีย:
- ความยุ่งยาก: การทำทุกอย่างด้วยตัวเองอาจเป็นเรื่องยุ่งยากและซับซ้อน ต้องใช้เวลาและความพยายามมาก
- ข้อมูลไม่ครบถ้วน: การหาข้อมูลเองอาจทำให้พลาดข้อมูลสำคัญหรือโอกาสที่ดี
- เสี่ยงต่อความผิดพลาด: การทำเอกสารหรือการขอวีซ่าเองอาจมีความเสี่ยงต่อการทำผิดพลาด
การใช้เอเจนซี่ เรียนต่ออังกฤษ
ข้อดี:
- สะดวกและรวดเร็ว: เอเจนซี่มีความเชี่ยวชาญและสามารถช่วยให้กระบวนการเตรียมตัวเรียนต่อเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
- ข้อมูลครบถ้วน: เอเจนซี่มักมีข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและหลักสูตรที่หลากหลาย
- ช่วยลดความเครียด: เอเจนซี่สามารถช่วยจัดการเรื่องเอกสาร การขอวีซ่า และการเตรียมตัวอื่น ๆ ทำให้คุณไม่ต้องเครียด
ข้อเสีย:
- ขาดอิสระ: บางครั้งเอเจนซี่อาจมีข้อจำกัดในการเลือกมหาวิทยาลัยหรือหลักสูตรที่คุณต้องการ
- ความสัมพันธ์กับเอเจนซี่: หากเลือกเอเจนซี่ที่ไม่มีคุณภาพ อาจเกิดปัญหาในกระบวนการเตรียมตัว
สนใจอยากเรียนต่ออังกฤษ สามารถสอบถามพี่ๆ GoUni ได้เลย

สอบถาม GoUni
การตัดสินใจว่าจะลงทุนเองหรือใช้เอเจนซี่นั้นขึ้นอยู่กับความต้องการและความพร้อมของแต่ละบุคคล แต่ไม่ว่าจะเลือกแนวทางใด ความมุ่งมั่นและความตั้งใจในการเตรียมตัวเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำพาคุณไปสู่ความสำเร็จในการเรียนต่ออังกฤษ