ถ้าน้องๆ เป็นคนหนึ่งที่ต้องการเริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ศูนย์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน ไม่ต้องกังวล เพราะการเริ่มต้นเรียนภาษานั้นไม่ยากเกินความสามารถของน้องๆ แน่นอน วันนี้พี่ๆ GoUni จะมาแนะนำขั้นตอนในการเริ่มเรียนภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยให้เราสามารถพัฒนาทักษะได้อย่างรวดเร็ว

ทำความเข้าใจกับระดับภาษาอังกฤษ

ขั้นแรกน้องๆ ควรทำความเข้าใจกับระดับความสามารถของตัวเองในด้านภาษาอังกฤษก่อน ไม่ว่าจะอยู่ในระดับใด การประเมินตนเองเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ น้องๆ สามารถใช้แบบทดสอบภาษาอังกฤษออนไลน์เพื่อประเมินระดับภาษาของเราและจะได้รู้ว่าต้องเริ่มเรียนจากจุดไหน

การประเมินระดับความสามารถภาษาอังกฤษเบื้องต้น

การประเมินความสามารถภาษาอังกฤษสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านหลากหลายแบบทดสอบ น้องๆ สามารถเลือกทำตามเว็บไซต์ที่มีการทดสอบระดับภาษา เช่น CEFR (Common European Framework of Reference for Languages) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลในการวัดระดับความสามารถทางภาษา

พื้นฐานสำคัญสำหรับการเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ

เมื่อประเมินระดับความสามารถแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเรียนรู้พื้นฐานภาษาอังกฤษเพื่อให้มีรากฐานที่มั่นคงก่อนที่จะฝึกทักษะต่าง ๆ

ศัพท์พื้นฐานที่ต้องรู้

การเรียนรู้คำศัพท์เป็นสิ่งที่จำเป็นในทุกระดับของภาษา โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น ควรเริ่มเรียนรู้คำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สิ่งของในบ้าน อาหาร หรือคำที่ใช้ในการสนทนาเบื้องต้น

ไวยากรณ์เบื้องต้นที่ควรเรียนรู้

การเข้าใจไวยากรณ์เป็นพื้นฐานที่สำคัญ ควรเริ่มเรียนจากประโยคง่าย ๆ เช่น ประโยคคำถาม การสร้างประโยคบอกเล่า การใช้กริยาช่วย และการเรียงคำให้ถูกต้อง

ทักษะการฟังและการอ่าน

การฟังและการอ่านเป็นสองทักษะที่สามารถพัฒนาได้ด้วยการฝึกฝน การฟังจากสื่อภาษาอังกฤษ เช่น ฟังพอดแคสต์ หรือดูหนังพร้อมคำบรรยาย จะช่วยเพิ่มความเข้าใจในการออกเสียงและประโยคได้

แนะนำวิธีฝึกฝนภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มต้น

การฝึกฝนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อเรียนภาษาใหม่ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย

👉🏼 อ่านบทความเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษ ไม่มีพื้นฐานเลยได้ที่นี่ : เรียนภาษาอังกฤษ ไม่มีพื้นฐานเลย – เริ่มต้นเรียนรู้ภาษาอังกฤษและเตรียมตัวไปศึกษาต่อที่อังกฤษง่ายๆ ใน 10 ขั้นตอน

การฝึกพูดและการออกเสียง

การฝึกพูดให้ถูกต้องและออกเสียงชัดเจน ควรเริ่มจากการเลียนแบบเสียงเจ้าของภาษาค่ะ น้องๆ สามารถใช้แอปพลิเคชันหรือฟังจากแหล่งเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อช่วยพัฒนาการออกเสียงของน้องๆ ได้

ใช้แอปพลิเคชันช่วยฝึกภาษา

มีแอปพลิเคชันหลายตัวที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการฝึกภาษาอังกฤษ เช่น Duolingo, Babbel หรือ Memrise แอปเหล่านี้สามารถช่วยให้การเรียนภาษาเป็นเรื่องง่ายและสนุก

แล้วแบบนี้การไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศยังจำเป็นหรือไม่? และจะช่วยเพิ่มทักษะภาษาอังกฤษได้อย่างไร?

การไปเรียนภาษาอังกฤษที่ต่างประเทศ แน่นอนว่าจะมีเรื่องของค่าใช้จ่ายที่สูง แต่จริงๆ แล้วผลลัพธ์ที่ได้นั้นมหาศาล และหากน้องๆ กำลังพิจารณาว่าควรไปเรียนต่อต่างประเทศดีหรือไม่ บอกเลยว่าหนึ่งในข้อดีของการเรียนต่อต่างประเทศคือการได้ใช้ภาษาอังกฤษในสภาพแวดล้อมจริง ๆ ตลอดเวลา

การใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่พูดภาษาอังกฤษตลอดเวลา

เมื่อคุณใช้ชีวิตอยู่ในประเทศที่พูดภาษาอังกฤษ คุณจะได้ฝึกฝนการสนทนาทุกวันโดยไม่ต้องพึ่งพาภาษาแม่ ซึ่งจะทำให้ทักษะการฟังและการพูดของคุณพัฒนาได้เร็วขึ้น

โอกาสในการสนทนากับเจ้าของภาษา

คุณจะได้โอกาสสนทนากับเจ้าของภาษา ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้การใช้ภาษาอย่างถูกต้องและธรรมชาติ

เรียนภาษาอังกฤษในประเทศหรือต่อต่างประเทศดี

การเรียนในประเทศกับการเรียนต่อต่างประเทศมีข้อดีแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและทรัพยากรของคุณ

ข้อดีของการเรียนในประเทศ

สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดหรือไม่สะดวกที่จะไปต่างประเทศ การเรียนภาษาอังกฤษในประเทศก็สามารถพัฒนาทักษะได้เช่นกัน โดยเลือกครูที่มีประสบการณ์และหลักสูตรที่เหมาะสม

ข้อดีของการเรียนต่อต่างประเทศ

การเรียนต่อต่างประเทศจะทำให้คุณได้ใช้ภาษาในสถานการณ์จริงและได้สัมผัสวัฒนธรรมที่แท้จริง ซึ่งช่วยให้คุณเรียนรู้ภาษาได้รวดเร็วกว่าการเรียนในห้องเรียน

ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเรียนต่อต่างประเทศ

แม้ว่าการเรียนต่อต่างประเทศจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีหลายสิ่งที่คุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ

ค่าใช้จ่ายและการเตรียมตัว

การเรียนต่อต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายที่สูง ทั้งค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ดังนั้น ควรคำนึงถึงงบประมาณและการเตรียมตัวให้พร้อม

วัฒนธรรมและการปรับตัว

การใช้ชีวิตในประเทศอื่นอาจต้องปรับตัวกับวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตที่แตกต่างออกไป ดังนั้น ควรเตรียมตัวในเรื่องนี้เช่นกัน

บทสรุป

การเรียนภาษาอังกฤษไม่ว่าจะในประเทศหรือต่อต่างประเทศนั้น มีความท้าทายและข้อดีในแต่ละแบบ หากคุณเริ่มต้นจากศูนย์ สิ่งสำคัญคือการพัฒนาทักษะพื้นฐานทั้งในด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน การเลือกวิธีการเรียนที่เหมาะสมกับตัวคุณจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษ

FAQs

FAQ 1: เริ่มเรียนภาษาอังกฤษตอนอายุเท่าไหร่ก็ยังดีอยู่ไหม?
ตอบ: ไม่มีอายุที่สายเกินไปสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษ คุณสามารถเริ่มเรียนได้ตลอดเวลา

FAQ 2: ควรใช้เวลาในการฝึกภาษาอังกฤษวันละเท่าไหร่?
ตอบ: ควรใช้เวลาอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงต่อวันในการฝึกภาษาเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและพัฒนาได้เร็ว

FAQ 3: แอปพลิเคชันใดที่ช่วยฝึกภาษาอังกฤษได้ดี?
ตอบ: แอปยอดนิยมเช่น Duolingo, Babbel, และ Memrise สามารถช่วยคุณฝึกภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ

FAQ 4: การเรียนต่อต่างประเทศทำให้เก่งภาษาได้ไวขึ้นจริงไหม?
ตอบ: จริง การเรียนต่อต่างประเทศจะทำให้คุณได้ฝึกฝนภาษาในชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้พัฒนาทักษะได้รวดเร็วกว่าการเรียนในประเทศ

FAQ 5: เรียนภาษาอังกฤษเองที่บ้านหรือเรียนในคลาสดีกว่ากัน?
ตอบ: ขึ้นอยู่กับวิธีการเรียนรู้ของแต่ละคน บางคนชอบการเรียนในคลาสเพื่อรับการแนะนำจากครู ส่วนบางคนสามารถเรียนรู้ได้ดีจากการฝึกฝนเองที่บ้าน