การเรียนต่อต่างประเทศ ทำงานไปด้วยได้สามารถช่วยลดภาระทางการเงินและเพิ่มประสบการณ์การทำงานที่มีค่า นี่คือ 10 ประเทศที่เปิดโอกาสให้นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานระหว่างการเรียนได้ พร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับการขอวีซ่าและพิกัดสถานที่ขอวีซ่า:

10 ประเทศที่เรียนต่อต่างประเทศ ทำงานไปด้วยได้

1. สหรัฐอเมริกา

• การทำงาน: นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานในมหาวิทยาลัยได้สูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงเปิดภาคเรียน และทำงานเต็มเวลาในช่วงปิดภาคเรียน
• การขอวีซ่า: ยื่นขอวีซ่า F-1 ซึ่งเป็นวีซ่าสำหรับนักเรียนที่ต้องการศึกษาเต็มเวลาที่สถาบันที่ได้รับการรับรอง
• พิกัดสถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงเทพฯ: Google Maps

2. สหราชอาณาจักร

• การทำงาน: นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานได้สูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงเปิดภาคเรียน และทำงานเต็มเวลาในช่วงปิดภาคเรียน
• การขอวีซ่า: ยื่นขอวีซ่า Tier 4 (General) Student visa โดยต้องได้รับการตอบรับจากสถาบันที่ได้รับการรับรอง
• พิกัดสถานทูตอังกฤษในกรุงเทพฯ: Google Maps

อ่านขั้นตอนแบบละเอียดได้จากบทความนีั้ : สถานที่ยื่นวีซ่าของประเทศอังกฤษย้ายที่แล้ว

3. แคนาดา

• การทำงาน: นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานนอกมหาวิทยาลัยได้สูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงเปิดภาคเรียน และทำงานเต็มเวลาในช่วงปิดภาคเรียน
• การขอวีซ่า: ยื่นขอ Study Permit และต้องมีใบรับรองการเข้าเรียนจากสถาบันการศึกษาที่ได้รับการยอมรับ
• พิกัดสถานทูตแคนาดาในกรุงเทพฯ: Google Maps

4. ออสเตรเลีย

• การทำงาน: นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานได้สูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงเปิดภาคเรียน และทำงานเต็มเวลาในช่วงปิดภาคเรียน
• การขอวีซ่า: ยื่นขอวีซ่านักเรียน Subclass 500 โดยต้องมีใบตอบรับการเข้าเรียนจากสถาบันที่ได้รับการรับรอง
• พิกัดสถานทูตออสเตรเลียในกรุงเทพฯ: Google Maps

5. เยอรมนี

• การทำงาน: นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานได้สูงสุด 120 วันเต็มเวลาหรือ 240 วันครึ่งเวลาต่อปี
• การขอวีซ่า: ยื่นขอวีซ่านักเรียน โดยต้องมีใบตอบรับการเข้าเรียนจากมหาวิทยาลัยในเยอรมนี
• พิกัดสถานทูตเยอรมนีในกรุงเทพฯ: Google Maps

6. นิวซีแลนด์

• การทำงาน: นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานได้สูงสุด 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงเปิดภาคเรียน และทำงานเต็มเวลาในช่วงปิดภาคเรียน
• การขอวีซ่า: ยื่นขอวีซ่านักเรียน โดยต้องมีใบตอบรับการเข้าเรียนจากสถาบันที่ได้รับการรับรอง
• พิกัดสถานทูตนิวซีแลนด์ในกรุงเทพฯ: Google Maps

7. ฝรั่งเศส

• การทำงาน: นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานได้สูงสุด 964 ชั่วโมงต่อปี (ประมาณ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์)
• การขอวีซ่า: ยื่นขอวีซ่านักเรียน (Visa étudiant) โดยต้องมีใบตอบรับการเข้าเรียนจากสถาบันที่ได้รับการรับรอง
• พิกัดสถานทูตฝรั่งเศสในกรุงเทพฯ: Google Maps

8. ญี่ปุ่น

• การทำงาน: นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานได้สูงสุด 28 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
• การขอวีซ่า: ยื่นขอวีซ่านักเรียน โดยต้องมีใบตอบรับการเข้าเรียนจากสถาบันที่ได้รับการรับรอง
• พิกัดสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ: Google Maps

9. เนเธอร์แลนด์

• การทำงาน: นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานได้สูงสุด 16 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในช่วงเปิดภาคเรียน และทำงานเต็มเวลาในช่วงปิดภาคเรียน
• การขอวีซ่า: ยื่นขอวีซ่านักเรียน โดยต้องมีใบตอบรับการเข้าเรียนจากสถาบันที่ได้รับการรับรอง
• พิกัดสถานทูตเนเธอร์แลนด์ในกรุงเทพฯ: Google Maps

10. สวีเดน

• การทำงาน: นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานได้อย่างไม่มีข้อจำกัดในเรื่องชั่วโมงการทำงาน
• การขอวีซ่า: ยื่นขอวีซ่านักเรียน โดยต้องมีใบตอบรับการเข้าเรียนจากสถาบันที่ได้รับการรับรอง
• พิกัดสถานทูตสวีเดนในกรุงเทพฯ: Google Maps

การเตรียมตัวขอวีซ่าและการทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนดการทำงานของแต่ละประเทศจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเรียนและการทำงานในต่างประเทศได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จในอนาคต

บทสรุป 10 ประเทศที่เรียนต่อต่างประเทศ ทำงานไปด้วยได้

การเรียนต่อต่างประเทศพร้อมกับการทำงานเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาทักษะทางการศึกษาและการทำงานพร้อมกัน หลายประเทศเปิดโอกาสให้นักเรียนต่างชาติสามารถทำงานระหว่างการเรียนได้ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย เยอรมนี นิวซีแลนด์ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และสวีเดน โดยแต่ละประเทศมีกฎระเบียบและข้อกำหนดที่แตกต่างกันในการขอวีซ่าและการทำงาน การเตรียมตัวขอวีซ่าจึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่นักเรียนต้องศึกษาล่วงหน้า

การขอวีซ่าในแต่ละประเทศต้องมีการเตรียมเอกสารที่ถูกต้องและครบถ้วน เช่น ใบตอบรับการเข้าเรียนจากสถาบันการศึกษา หลักฐานการเงิน และการประกันสุขภาพ นอกจากนี้ การหาข้อมูลเกี่ยวกับพิกัดสถานทูตหรือศูนย์บริการขอวีซ่าของแต่ละประเทศจะช่วยให้กระบวนการขอวีซ่าง่ายขึ้น

การเตรียมตัวล่วงหน้าและการทำความเข้าใจกฎระเบียบของแต่ละประเทศจะช่วยให้คุณสามารถปรับตัวและใช้ชีวิตในต่างประเทศได้อย่างราบรื่น การทำงานระหว่างเรียนไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระทางการเงิน แต่ยังเพิ่มประสบการณ์การทำงานที่มีค่าในการพัฒนาตนเองในอนาคต