การเรียนต่อแพทย์ที่อังกฤษเป็นเส้นทางที่ท้าทายแต่เปี่ยมไปด้วยโอกาสมากมาย ไม่เพียงแต่หลักสูตรการแพทย์ของอังกฤษจะมีคุณภาพสูง แต่ยังได้รับการยอมรับจากทั่วโลก สำหรับนักเรียนไทยที่สนใจเข้าสู่วงการแพทย์ การเตรียมตัวอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ และมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึง St. George’s University (SGU) ยังมีโปรแกรมที่รองรับนักเรียนจากนานาชาติ

ตามพี่ๆ GoUni มาดูกันเลยว่าการจะเข้าเรียนต่อสายแพทย์ที่อังกฤษต้องเตรียมตัวในส่วนใดบ้าง

เส้นทางสู่การเป็นแพทย์ที่อังกฤษหรือต่างประเทศ

1. คุณสมบัติและเกณฑ์เบื้องต้น นักเรียนที่สนใจศึกษาต่อสายแพทย์ต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานทางวิชาการที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในวิชาคณิตศาสตร์ ชีววิทยา เคมี และฟิสิกส์ การมีคะแนน A-Level ที่ดี หรือเลือกเรียน International Baccalaureate (IB) เป็นอีกหนึ่งเส้นทางสู่มหาวิทยาลัยแพทย์ นักเรียนยังต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษที่ได้มาตรฐาน เช่น IELTS หรือ TOEFL
2. การสอบ BMAT และ UCAT การสอบ BMAT (Biomedical Admissions Test) และ UCAT (University Clinical Aptitude Test) เป็นสิ่งที่นักเรียนต้องเตรียมตัว เพราะเป็นการวัดความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ความคิดเชิงวิเคราะห์ และความสามารถในการแก้ปัญหา ซึ่งผลการสอบเหล่านี้จะถูกนำมาพิจารณาในการคัดเลือกเข้าเรียนในคณะแพทย์
3. การสมัครเรียนผ่าน UCAS นักเรียนต้องสมัครผ่านระบบ UCAS (Universities and Colleges Admissions Service) ซึ่งเป็นระบบกลางที่ใช้ในการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในอังกฤษ โดยจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น ผลการเรียน จดหมายแนะนำตัว (Personal Statement) และเอกสารประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสมัคร
4. การสัมภาษณ์ เมื่อผ่านการพิจารณาเอกสาร นักเรียนจะถูกเชิญเข้าสู่การสัมภาษณ์ โดยเป็นการวัดทักษะในการคิดวิเคราะห์ และความเข้าใจในระบบการแพทย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการคัดเลือกนักศึกษาแพทย์

อยากเป็นหมอที่ต่างประเทศต้องเริ่มต้นยังไง? พี่พีชชี่พาทุกคนไปคุยกับ Dr. Coey อาจารย์หมอจาก St. George’s University ที่เมือง Newcastle, UK เจาะลึกข้อมูลการสมัครเรียนแบบละเอียดยิบ พร้อมคุยกับน้องๆ นักเรียนไทย ได้นอนมั้ย? มีเวลามีแฟนรึป่าว? ไปดูเลย!

ทำความรู้จักกับ St. George’s University (SGU)

St. George’s University (SGU) เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล แม้ว่า SGU จะตั้งอยู่ในเกาะเกรเนดา (Grenada) ในแคริบเบียน แต่ก็เป็นที่นิยมของนักเรียนที่ต้องการศึกษาทางการแพทย์ในระบบสากล และเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกงานและศึกษาในหลายประเทศทั่วโลก

จุดเด่นของ St. George’s University (SGU)

1. หลักสูตรทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรอง SGU มีหลักสูตร Doctor of Medicine (MD) ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลก เช่น Grenada Medical and Dental Council (GMDC) ที่ได้รับการรับรองโดย World Federation of Medical Education (WFME) ซึ่งหมายความว่านักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจาก SGU สามารถสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์และทำงานในหลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และแคนาดา
2. ไม่ต้องใช้คะแนน BMAT และ MCAT ในการสมัครเข้าเรียนที่ SGU นักเรียนไม่จำเป็นต้องยื่นคะแนน BMAT หรือ MCAT ซึ่งแตกต่างจากหลายมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ อย่างไรก็ตาม นักเรียนทุกคน รวมถึงผู้ที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ต้องยื่นผลสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS หรือ TOEFL เพื่อยืนยันความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษตามมาตรฐานของมหาวิทยาลัย
3. โครงสร้างหลักสูตรที่ยืดหยุ่น หลักสูตร MD ของ SGU ใช้เวลาเรียน 4 ปี โดยแบ่งเป็นการเรียน Pre-clinical (ปี 1-2) และ Clinical (ปี 3-4) ในช่วงปีที่ 3-4 นักเรียนจะได้ฝึกงานในโรงพยาบาลที่ได้รับการรับรองทั้งในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร หรือประเทศอื่น ๆ ทำให้นักเรียนได้รับประสบการณ์การทำงานจริงในระบบสาธารณสุขที่หลากหลาย
4. โอกาสฝึกงานในต่างประเทศ หนึ่งในจุดเด่นของ SGU คือการให้โอกาสนักเรียนฝึกงานในหลายประเทศ ทำให้ได้รับประสบการณ์การทำงานในหลายระบบการแพทย์ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างทักษะในด้านการดูแลผู้ป่วยในบริบทที่แตกต่างกัน
5. ทุนการศึกษา แม้ว่า SGU จะมีค่าเล่าเรียนที่สูง แต่ทางมหาวิทยาลัยมีทุนการศึกษาหลายประเภทสำหรับนักเรียนที่มีความสามารถดีเยี่ยม และยังมีทุนเฉพาะสำหรับนักเรียนจากประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักเรียนไทยที่สนใจสมัคร (การให้ทุนจะขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี)
   • International Peace Bursary Program: ทุนสำหรับนักเรียนต่างชาติในโปรแกรม
   • Partial Tuition Bursary: สำหรับนักเรียนต่างชาติที่มีงบจำกัดและต้องการทุนจริงๆ

Pathway to Medical School: โครงสร้างหลักสูตรการเรียนที่ St. George’s University (SGU)

โดยทั่วไปการศึกษาที่ SGU จะมีหลายเส้นทางขึ้นอยู่กับความต้องการและพื้นฐานของนักเรียน ดังนี้:

Pathway ในการเข้าเรียนที่ St. George’s University (SGU)

1. หลักสูตร 7 ปี (MD Program):
   • เริ่มต้น 4 ปีใน Preclinical Sciences: นักเรียนจะเรียนวิชาทางการแพทย์เบื้องต้นใน 3 ปีแรก (Preclinical Sciences I-III) ซึ่งจะเน้นการเรียนทฤษฎีและความรู้พื้นฐานทางการแพทย์
   • ปีที่ 4-7 MD Program: หลังจากนั้นนักเรียนจะเข้าเรียนในหลักสูตร MD ซึ่งใช้เวลาอีก 4 ปี โดยจะเรียนในหัวข้อที่สำคัญต่าง ๆ เช่น Basic Principles of Medicine และ Clinical Medicine รวมถึงการฝึกงานใน Core Clerkship และ Advanced Clinical เพื่อพัฒนาทักษะการดูแลผู้ป่วย
2. หลักสูตร 6 ปี (MD Program):
   • สำหรับนักเรียนที่มีพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ดี จะเริ่มต้นที่ Preclinical Sciences 2 ปี ตามด้วยการเรียน MD Program 4 ปี
3. หลักสูตร 5 ปี (MD Program):
   • นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรระดับ A-Level หรือ IB สามารถเริ่มเรียน MD Program ได้โดยตรง โดยเรียน Preclinical Sciences เป็นเวลา 1 ปี
4. หลักสูตร 4 ปี (MD Program):
   • สำหรับนักเรียนที่มีพื้นฐานการศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น นักเรียนที่จบปริญญาตรีด้านวิทยาศาสตร์ สามารถสมัครเรียน MD Program ได้ทันที โดยไม่มีการเรียน Preclinical Sciences

SGU มีความยืดหยุ่นในทางเลือกการเรียน ทำให้เหมาะสำหรับนักเรียนที่มีพื้นฐานการศึกษาที่แตกต่างกัน และเส้นทางที่หลากหลายช่วยให้ผู้เรียนสามารถเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับตนเองในการเตรียมตัวเข้าสู่อาชีพแพทย์ในอนาคต

หากนักเรียนไทยสนใจสมัครเรียนที่ St. George’s University (SGU) มีขั้นตอนการเตรียมตัวที่สำคัญและระดับการศึกษาในการสมัครเรียน ดังนี้:

Entry Requirements: เตรียมตัวสมัครเรียนที่ SGU

1. การศึกษาเบื้องต้น:
   • จบการศึกษาระดับมัธยมปลาย (ม.6): นักเรียนที่จบการศึกษาระดับมัธยมปลายสามารถสมัครเรียนในหลักสูตร MD Program ได้ โดยอาจเลือกเส้นทาง 4 ปี, 5 ปี หรือ 6 ปี ขึ้นอยู่กับพื้นฐานการศึกษา
   • จบการศึกษาระดับปริญญาตรี: หากนักเรียนมีปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น วิทยาศาสตร์ชีวภาพหรือวิทยาศาสตร์สุขภาพ สามารถสมัครเรียนในหลักสูตร MD Program 4 ปีได้ทันที
2. คะแนนสอบภาษาอังกฤษ:
   • นักเรียนต้องมีผลสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS (ขั้นต่ำ 7.0) เพื่อยืนยันความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการศึกษาในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ (ผลสอบสามารถส่งตามไปทีหลังได้)
3. เอกสารประกอบการสมัคร:
   • เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม ได้แก่:
     • ใบแสดงผลการเรียน (Transcripts)
     • จดหมายแนะนำตัว (Personal Statement) ที่อธิบายเหตุผลในการเลือกเรียนที่ SGU และเป้าหมายในอนาคต
     • เอกสารรับรองการศึกษา (Diplomas or Certificates)
     • ผลการสอบภาษาอังกฤษ
     • Reference letter 2 ฉบับจากคุณครู
4. การสมัครผ่าน UCAS:
   • นักเรียนจะต้องสมัครผ่านระบบ UCAS (Universities and Colleges Admissions Service) ซึ่งเป็นระบบกลางสำหรับการสมัครเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร
5. การสัมภาษณ์:
   • บางครั้งนักเรียนอาจต้องผ่านการสัมภาษณ์เพื่อประเมินความพร้อมและความมุ่งมั่นในการเรียนแพทย์

ระดับการศึกษาที่สามารถสมัครเรียนได้

• ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (A-Level):
  • นักเรียนที่จบ ม.6 สามารถสมัครเรียนในหลักสูตร 4 ปี, 5 ปี หรือ 6 ปี ขึ้นอยู่กับคะแนนและความเหมาะสม
• ระดับปริญญาตรี:
  • นักเรียนที่มีปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้อง สามารถสมัครเรียนในหลักสูตร MD Program 4 ปีได้ทันที
• International Baccalaureate (IB):
  • นักเรียนที่จบ IB สามารถสมัครในหลักสูตร MD Program 5 ปีหรือ 6 ปี

การเตรียมตัวล่วงหน้าและการให้คำปรึกษาจาก GoUni

นักเรียนที่สนใจเรียนต่อสายแพทย์ที่มหาวิทยาลัยอย่าง SGU ควรเตรียมตัวล่วงหน้า ซึ่งทาง GoUni เองก็เป็นผู้ให้บริการให้คำปรึกษาที่ช่วยสนับสนุนนักเรียนในการสมัครเรียน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเตรียมเอกสาร จัดเตรียมใบสมัคร UCAS ติดตามผลการสมัคร และให้คำปรึกษาในการยื่นขอวีซ่า รวมถึงจัดการปฐมนิเทศก่อนบินไปเรียน เพื่อให้การเดินทางและการเรียนต่อสายแพทย์ที่อังกฤษเป็นไปอย่างราบรื่น

สรุป

การเรียนต่อสายแพทย์ที่อังกฤษไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ หากมีการเตรียมตัวที่ดีและเข้าใจขั้นตอนอย่างละเอียด นักเรียนที่มีความมุ่งมั่นสามารถสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำต่าง ๆ เช่น St. George’s University (SGU) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยมีโอกาสที่กว้างไกลในเส้นทางการเป็นแพทย์